|
Picture From https://tctechcrunch2011.files.wordpress.com/2016/05/uber-punch-card.jpg
|
การสะสมคะแนนเป็นมากกว่าการทำเพื่อ "แลกของแถม"
บัตรสะสมคะแนนหรือสะสมแต้ม เป็นกิจกรรมที่ธุรกิจสร้างขึ้นเพื่อทดสอบความภักดีของกลุ่มเป้าหมาย (Loyalty Programs) ผ่านการสะสมคะแนนที่ได้จากการซื้อสินค้าหรือบริการอย่างต่อเนื่อง และได้รับรางวัลตอบแทนความภักดีในรูปแบบของรางวัลหรือส่วนลดที่แจ้งไว้ล่วงหน้า
นี่จึงเป็นวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจได้รับยอดขายอย่างต่อเนื่องมากขึ้น สะท้อนประสิทธิภาพของสินค้าและบริการผ่านปริมาณการซื้อซ้ำ การใช้บริการซ้ำ และสะท้อนการเติบโตของธุรกิจจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น
บัตรสะสมคะแนนคืออะไร?
คือ วิธีการของธุรกิจ, ร้านค้าเพื่อดึงดูดให้เกิดการซื้อหรือใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
คือ วิธีของธุรกิจเพื่อสะท้อนความพึงพอใจ และความตั้งใจในการซื้อหรือใช้บริการของลูกค้า
คือ คำสัญญาของธุรกิจ, ร้านค้าที่จะให้บริการหรือผลิตสินค้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ข้อควรระวังก่อนการทำบัตรสะสมคะแนน
- ร้านค้าควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า สินค้าและบริการได้รับการปรับปรุง พัฒนา และพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ
- กำชับให้พนักงานทุกส่วน สร้างการรับรู้โดยการตอกย้ำกับลูกค้าตอนชำระค่าบริการ ทำให้พวกเขารักษาสิทธิ์ หรือแจ้งสิทธิให้ทราบ (อันนี้สำคัญมาก) ทุกครั้งที่ใช้บริการหรือซื้อสินค้า
- ไม่ควรทำบัตรสะสมคะแนนในตอนเริ่มต้นธุรกิจ เพราะนั่นยังจะไม่ใช่ลูกค้าตัวจริงของคุณ
- บัตรสะสมคะแนนไม่ช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบถล่มทลาย แต่เป็นกิจกรรมเพื่อช่วยให้ยอดขายมีความสม่ำเสมอ
- บัตรสะสมคะแนนควรมีกำหนดเวลาและของรางวัลที่ชัดเจน
- เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าหรือบริการในระยะเวลาที่กำหนด
- เพื่อนำผลในการทำงานมาปรับใช้กับโครงการถัดไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทำอย่างไรให้ลูกค้าสะสมคะแนนจนครบ?
- ให้ของรางวัลที่คู่ควร คุณควรพิจารณาเลือกของรางวัลที่ทุกคนต้องอยากได้ ไม่ใช่สิ่งที่ร้านพอจะให้ได้ ยกตัวอย่าง ธุรกิจของคุณเป็นร้านกาแฟ ขายประมาณแก้วละ 45 บาท การสะสมแต้มครบ 10 แก้ว ฟรี 1 แก้ว แต่ลูกค้าของคุณคิดว่าจ่ายไปตั้ง 450 บาท พวกเค้าไม่ได้คิดหรอกครับว่าร้านมีต้นทุนเท่าไหร่ ดังนั้น
- ถ้าจะของแถมที่ลูกค้าซื้อทานเองทุกวัน จะดีกว่าไหมเปลี่ยนเป็นแถมเมนูใหม่ หรือสินค้าใหม่?
- ลูกค้าบางกลุ่มอาจไม่รู้สึกว่าพิเศษ และต้องมีบางกลุ่มที่ชื่นชอบของฟรี และคุณต้องรู้จักลูกค้าให้มากที่สุด
- เป้าหมายการทำสะสมแต้มก็เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ มีส่วมร่วมกับร้านค้า คุณอาจให้สิทธิในการแลกซื้อสินค้า หรือให้ของขวัญรางวัลในรูปแบบคูปอง หรือได้รับสิทธิในการทดลองผลิตภัณฑ์พิเศษก่อนลูกค้าคนอื่นๆ
- วางเงื่อนไขต้องไม่ยาก ต้องทำให้รู้สึกว่าง่าย และคุ้มค่า (แต่คุณต้องคำนวณต้นทุนให้ดีนะครับ) รวมไปถึงข้อแม้และเงื่อนไขต่างๆ พยายามอย่าให้มันเยอะ
- บัตรที่ใช้ควรมีคุณภาพ ลองนึกดูสิครับ ร้านค้าให้บัตรสะสมเป็นกระดาษสีเดียว แน่นอนประหยัด แต่ลูกค้าไม่อยากได้ ไม่กล้าถือ ไม่กล้าโชว์ก็จบ พิถีพิถันสักนิดครับ ทำให้ลูกค้าอยากถือบัตร ภูมิใจที่ได้บัตรของร้านคุณ อย่างน้อยที่สุดนั่นเป็นเหมือนการเผยแพร่แบรนด์ของคุณ
จริงหรือไม่? ที่หลายคนบอกว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์
มีทั้งจริงและไม่จริงครับ เรื่องอย่างนี้ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง คงต้องแยกเป็น 2 ฝั่งคือ
ผู้บริโภค
- เงื่อนไขการสะสมคะแนนยากเกินไป
- ของรางวัลที่ให้ไม่จูงใจให้สะสม หรืออยากได้
- ไม่ภูมิใจ หรือไม่อยากพกพาบัตร
- ไม่อยากสะสมเพราะเพิ่งมาที่ร้านครั้งแรก แค่อยากทดลองใช้ก่อน
- ไม่อยากสะสมเพราะเคยทดลองแล้วก็ไม่ประทับใจในสินค้าหรือบริการ
ร้านค้า
- ไม่มีกำหนดระยะของการสะสมคะแนน หรือของรางวัลที่เหมาะสม
- ขาดการเก็บรวบรวม และประเมินผลที่เป็นรูปธรรม
- ใช้วิธีสะสมคะแนนกับสินค้าและบริการที่มีราคาสูงมากๆ เช่น ร้านอาหารหรูๆ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อซ้ำจาก "คุณภาพ" หรือ "รสนิยม"
- เจ้าของธุรกิจไม่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดหรือไม่เชื่อว่าบัตรสะสมแต้มจะได้ผล สิ้นเปลือง จึงทำแค่บัตรกระดาษ
สิ่งสำคัญที่ร้านค้าจะลืมไม่ได้คือ กระบวนการสร้าง Loyalty Program คือการสร้างสัมพันธ์ระหว่าง "คน" หากทั้งเจ้าของ พนักงาน หุ้นส่วนของธุรกิจไม่มีใจพร้อมให้บริการ "ทุกอย่างก็จบ"
รูปแบบร้านค้าที่เหมาะกับการทำบัตรสะสมคะแนน
- มีสินค้าและบริการที่ใช้ได้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน อาทิ ร้านกาแฟ ร้านนวด ร้านสปา ร้านตัดผม
- ราคาใช้จ่ายต่อครั้งไม่สูงจนเกินไป
- มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน
- มีที่ตั้งร้านค้าชัดเจน
- มีการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ร้านค้าหรือธุรกิจยุค 4.0 ต้องปรับตัว
- กิจกรรมหลักคือ การพยายามสร้างและดูแลลูกค้าประจำ
- กิจกรรมรองคือ ทำส่งเสริมการขายเฉพาะที่จำเป็น มุ่งสร้างยอดขายในระยะสั้น
- เพิ่มสินค้าใหม่ๆ และพัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่อง
- มุ่งลดต้นทุนการแสวงหาลูกค้าใหม่ เพราะต้นทุนสูงขึ้นทุกวัน
- มุ่งสู่การนำเสนอจุดเด่นที่แตกต่าง ช่วยแก้ปัญหา เป็นประโยชน์
- วางโครงสร้างองค์กรให้เล็ก
- ในอนาคตแรงงานจะกลายเป็นสิ่งหายาก
- นำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับร้านค้าให้มากที่สุด ทั้งระบบ POS, Social Media, Mobile Apps, SEO และที่พลาดไม่ได้คือ Website
- สำหรับร้านอาหารให้ใช้ประโยชน์จากบริการส่งสินค้า Grab Food, Line Man, Get Food เป็นส่วนเสริม
- สำหรับร้านให้บริการ พยายามปรับใช้การจองเวลา หรือการชำระเงินออนไลน์
- การเพิ่มจำนวนสาขาคือความเสี่ยง และวันนี้ทุกธุรกิจต่างถูกคุกคามจากระบบการตลาดออนไลน์ หรือความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ต
หากคุณต้องการทำให้ร้านค้าของคุณพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง หรือต้องการคำแนะนำบางอย่างเกี่ยวกับการนำดิจิทัลโซลูชันทางการตลาดมาใช้กับธุรกิจของคุณ เราพร้อมและมีความสุขที่จะช่วย
โทรหาเราได้ที่ 095-229-3655 เพื่อพูดคุย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.gramdigital.net พวกเราพร้อมช่วยวางแผนเพื่อพัฒนาร้านค้า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กให้พอดีกับทุกความต้องการของคุณ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น