Digital Transformation

ทำไมธุรกิจจึงควรมีเว็บไซต์? แล้วธุรกิจขนาดเล็กๆ ต้องการเว็บไซต์ไปทำไม? แน่นอนสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอาจจะรู้สึกว่าปัจจุบันก็ยุ่งมากพอที่จะจัดการแล้ว! แต่ในความเป็นจริง ธุรกิจสมัยใหม่จำเป็นต้องตอบสนองต่อพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของลูกค้ายุคใหม่ให้มากที่สุด ปัจจุบันผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มหันมาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะทดลองใช้บริการหรือซื้อสินค้าใหม่ๆ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทุกธุรกิจจึงควรมีสถานะออนไลน์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากเมื่อการดำเนินธุรกิจขนาดเล็กของคุณเริ่มมีการขยายตัว และต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจสมัยใหม่ อย่างไรก็ตามธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มรูปแบบ จากการสำรวจธุรกิจขนาดเล็กในกรุงเทพฯ เราพบว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการเตรียมพร้อมเรื่องการทำเว็บไซต์เพื่อธุรกิจ* แม้จะรับรู้กันทั่วไปแล้วว่า ธุรกิจในปัจจุบันกำลังปรับตัวเข้าสู่รูปแบบดิจิตอลกันมากขึ้น แต่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ก็ยังไม่มั่นใจในเหตุผลของการสร้างเว็บไซต์เพื่อธุรกิจ แน่นอนว่าหากคุณเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพที่เปิดให้บริการเฉพาะในพื้นที่ การทำเว็บไซต์

ในความเป็นจริงแล้วเราปฏิเสธการรับสื่อต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราได้หรือไม่นั้น ให้ลองสังเกตเพื่อนๆ รอบตัวคุณก็ได้ครับ ต้องมีหลายคนแน่ๆ พยายามที่จะใช้ชีวิตแบบมิดชิดอยู่บนโลกออนไลน์ "ส่อง" อย่างเดียว ไม่คอมเมนท์ ไม่กดไลท์ แล้วพวกเค้าหลบโฆษณาได้แล้วใช่หรือไม่? ในความเป็นจริง ในชีวิตประจำวันของพวกเราต่างก็ต้องสัมผัสกับความหลากหลายของสื่อ และข้อความทางการตลาดมากมายไม่มากก็น้อย และถือเป็นเรื่องปกติที่เราพบได้ทั่วๆ ไป ในส่วนของสื่อใหม่อย่างสื่อสังคมออนไลน์เราก็ยิ่งพบเห็นได้ง่ายจากสื่อทุกช่องทาง ทำให้ผมแปลกใจทุกครั้งที่เห็นบางบริษัทเมื่อเริ่มที่จะทำการสื่อสารการตลาด แต่กลับต้องมาชั่งน้ำหนักทุกครั้งว่าจะเลือกแนวทางใดดี ระหว่างสื่อสังคมออนไลน์หรือสื่อแบบเก่า? เพราะจริงๆ แล้วสื่อสังคมออนไลน์ที่เราคุ้นเคยนั้น ไม่ใช่แค่การเขียนบล็อก โพสต์ข้อความ หรือสร้างเครื่องมือสื่อสาร แต่มันรวมไปถึงทุกกิจกรรมที่คุณพบเห็นทางช่องทางออนไลน์แล้วส่งต่อข้อความนั้นในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เช่น การที่ลูกค้าของคุณได้ดูวิดีโอบน YouTube แล้วบอกต่อกับเพื่อนถึงประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาได้รับ หรือโพสต์เพื่อ

ในอดีตสื่อสิ่งพิมพ์ และเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่บนอุปกรณ์พกพาในรูปแบบอีบุคส์ พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพียงการย่อขนาดของงานต้นฉบับสิ่งพิมพ์ให้พอดีกับหน้าจอขนาดเล็ก ซึ่งในความเป็นจริงขนาดหน้าจอกับต้นฉบับงานพิมพ์นั้นมีความแตกต่างกันมาก หากตั้งคำถามว่า เราอ่านได้การย่อขนาดแบบนั้นบนมือถือได้ง่ายแล้วหรือยัง?  คำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่ก็คือ "ยัง" หากเราได้ลองพิจารณาจากผลการสำรวจจำนวนผู้ใช้มือถือของผู้บริโภคชาวไทยพบวว่ามีราว 91.9 ล้านเครื่อง (ข้อมูลจากสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) Digital Advertising Association (Thailand) หรือ DAAT) สามารถกล่าวได้ว่า มือถือได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในชีวิตประจำวัน และมีจำนวนมากกว่าประชากรทั้งหมดของประเทศ นั่นเป็นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร และการผลิต ทำให้มือถือมีราคาถูกลง แต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น "มือถือ และแท๊บเลต" ในวันนี้จึงเป็นได้มากกว่าอุปกรณ์สื่อสาร และไม่ได้เป็นแค่สื่อทางเลือกอีกต่อไป เมื่อ "โทรศัพท์มือถือ" กลายเป็นช่องทางสำคัญ จากจำนวนของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือผู้บริโภค ทำให้หน้าจอเล็กๆ นี้กลายเป็นกลายเป็นส่วนหนึ่งในช

คงไม่ปฏิเสธนะครับว่า แนวโน้มการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่เติมโตมากขึ้น ส่งผลให้การตลาดบนมือถือเริ่มมีความสำคัญเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และการพัฒนาตลาดบนช่องทางนี้สิ่งแรกที่ควรทำคือการมี "แอปพลิเคชั่น" เพราะจะทำให้กิจกรรมต่างๆ บนมือถือทำได้ง่ายขึ้น แนวโน้มการเติบโตของตลาดแอปพลิเคชั่น คุณลองสังเกตง่ายๆ ได้จากธุรกิจขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ ก็จะพบว่า หลายธุรกิจเริ่มมีแอปพลิเคชั่นเป็นของพวกเขาเองแล้ว – ไม่ว่าจะ ร้านอาหาร, ปั๊มน้ำมัน ธนาคาร เครือข่ายมือถือ หรือร้านกาแฟ ทุกธุรกิจต่างก็เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจากบนมือถือ เพราะวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์สื่อสารทั้งมือถือ และแทบเล๊ตได้กระจายไปอยู่ในมือของผู้บริโภคชาวไทยราว 91.9 ล้านเครื่อง (ข้อมูลจากสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) Digital Advertising Association (Thailand) หรือ DAAT) สามารถกล่าวได้ว่า มือถือได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในชีวิตประจำวันของเราเป็นที่เรียบร้อย แสดงตัวเลขยอดผู้ใช้บริการมือถือในประเทศไทย ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 วันนี้คุณวางแผนเพื่อยกระดับช่องทางการตลาดบนมือถือกันแล้วหรือยัง? สำหรับธุรกิจที่มีขนาดกลาง แ